ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence)
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) คืออะไร?
Artificial Intelligence หรือ เรียกง่ายๆว่า AI เป็นคำที่ใช้อธิบายความสามารถของเครื่องจักรในการจำลองสติปัญญาของมนุษย์ การกระทำต่างๆเช่น การเรียนรู้ ตรรกะการใช้เหตุผล การรับรู้ ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมือนใครสำหรับมนุษย์ ปัจจุบันถูกจำลองแบบโดยเทคโนโลยีและถูกนำไปใช้ในทุกอุตสาหกรรม
ตัวอย่างทั่วไปของ AI ในโลกปัจจุบันคือ แชทบอท โดยเฉพาะเวอร์ชัน “แชทสด(live chat)” ที่จัดการคำขอบริการลูกค้าพื้นฐานบนเว็บไซต์ของบริษัท เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นเกณฑ์มาตรฐานจึงก่อให้เกิด AI
ปัญญาประดิษฐ์ทำงานอย่างไร?
ปัญญาประดิษฐ์เป็นสาขาวิชาที่ซับซ้อน ซึ่งมีส่วนประกอบและวิธีการมากมายที่ใช้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สุดท้าย นั่นคือ เครื่องจักรอัจฉริยะ(Intelligent Machine) ซึ่ง AI ได้รับการพัฒนาโดยศึกษาวิธีที่สมองของมนุษย์คิด เรียนรู้และตัดสินใจจากนั้นจึงนำกลไกทางชีววิทยาเหล่านั้นมาใช้กับคอมพิวเตอร์
เมื่อเทียบกับการคำนวณแบบคลาสสิกที่ coders ให้อินพุต เอาต์พุตและตรรกะที่แน่นอน ปัญญาประดิษฐ์จะขึ้นอยู่กับการจัดหาอินพุตและผลลัพธ์ที่ต้องการให้กับเครื่องทำให้เครื่องพัฒนาเส้นทางของตัวเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ สิ่งนี้มักช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถปรับสถานการณ์ให้เหมาะสมได้ดีกว่ามนุษย์ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพโลจิสติกส์ซัพพลายเชน และการปรับปรุงกระบวนการทางการเงิน
ปัญญาประดิษฐ์ประเภทต่างๆมีอะไรบ้าง?
AI มีสี่ประเภทที่แตกต่างกันตามความซับซ้อนของความสามารถ ดังนี้:
- เครื่องตอบสนองใช้ข้อมูล ก่อนหน้านี้เพื่อหาข้อสรุปสำหรับการตัดสินใจในปัจจุบัน เช่นหมากรุก AI (chess AI)
- หน่วยความจำที่จำกัด ใช้ข้อมูลสดเพื่ออ่านสถานการณ์และตัดสินใจ เช่น รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง
- ทฤษฎีของจิตใจ เป็นสิ่งที่เรายังไปไม่ถึงและเกี่ยวข้องกับความเข้าใจ AI ว่าทุกหน่วยงานมีแนวคิดพื้นฐานของตัวเอง เช่น แรงจูงใจ ความตั้งใจ และอารมณ์
- การตระหนักรู้ในตนเอง เป็นขั้นตอนสุดท้ายของ AI ซึ่ง AI ไม่เพียงเข้าใจจิตสำนึกของผู้อื่น (ทฤษฎีของจิตใจ) แต่ยังมีแนวคิดเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของตัวเองอีกด้วย
ข้อดีและประโยชน์ของ AI คืออะไร?
ปัญญาประดิษฐ์สามารถช่วยลดข้อผิดพลาดของมนุษย์ สร้างการวิเคราะห์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น และเปลี่ยนอุปกรณ์รวบรวมข้อมูลให้เป็นเครื่องมือวินิจฉัยที่มีประสิทธิภาพ ตัวอย่างหนึ่งของสิ่งนี้คือ อุปกรณ์สวมใส่เช่น นาฬิกาอัจฉริยะ(Smart Watches) และตัวติดตามการออกกำลังกาย(fitness trackers) ซึ่งทำให้ข้อมูลอยู่ในมือของผู้บริโภคเพื่อช่วยให้พวกเขามีบทบาทในการจัดการสุขภาพ
อย่างที่คุณสามารถจินตนาการได้ว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มีการพัฒนาทุกวัน เรามาคอยจับตาดูว่าปัญญาประดิษฐ์จะกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมต่างๆได้อย่างไรเช่น Internet of Things (IoT) การขนส่งและโลจิสติกส์ สุขภาพดิจิทัลและฟินเทคหลายสาขารวมถึง บริษัท ประกันภัยและประกันชีวิต
ที่มา: https://www.businessinsider.com/artificial-intelligence